Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บทเพลงจากพระราชนิพนธ์"ชะตาชีวิต"และหนังเรื่อง"นกน้อย"

"ชะตาชีวิต"เป็นชื่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่๕ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ดั้งเดิมทรงพระราชนิพนธ์ที่สวิตเซอร์แลนด์ หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์และเสด็จกลับไปสวิตฯอีกครั้ง
เพื่อทรงศึกษาต่อ...ประมาณปีพ.ศ.2490 ขณะทรงมีพระชนมายุเพียง20พรรษา เท่านั้น
โดยทรงโปรดเกล้าฯให้ ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องเป็นภาษาอังกฤษ และพระราชทานชื่อเพลงนี้ว่า "H.M. Blue..ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ศาสตราจารย์ ด.ร.ประเสริฐ ณ นครประพันธ์คำร้องภาษาไทย แต่มิได้ทรงพระราชทานคำร้องภาษาอังกฤษดั้งเดิมมาให้ ด.ร.ประเสริฐจึงแต่งคำร้องที่จินตนาการขึ้นเอง อันมีความหมายคนละเรื่องกับเนื้อเพลงของพระองค์ท่าน...และได้
วินัย จุลลบุษปะ บันทึกเสียงเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2491
ดอกดิน กัญญามาลย์..นักสร้างหนังคนดังในยุคนั้น เจ้าของฉายา"ดอกดินตัวดำดำ"ได้อัญเชิญ บทเพลงชะตาชีวิต มาเป็นเพลงนำหนังเรื่อง"นกน้อย"..โดยได้ขอพระบรมราชานุญาติ และพระองค์ทรงโปรดพระราชทานอย่างเป็นทางการ...นับเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ที่มีการอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์มาใส่ในหนัง...เป็นที่กล่าวขวัญชื่นชมสดุดีอย่างมากในสมัยนั้นทีเดียว

"นกน้อย"เป็นภาพยนตร์ปี 2507...ดอกดินเป็นผู้กำกับและผู้สร้าง ดัดแปลงมาจากเค้าโครง
นวนิยายของ"ป.พิมล"( ซึ่งประพันธ์ขึ้นจากเค้าโครงหนังที่เขาชื่นชอบเรื่อง Somebody up
there likes me ปี1956 นำแสดงโดย Paul Newman )...นำแสดงโดย
มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฏร์...ซึ่งบทบาทการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในหนังเรื่องนี้ทำให้ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองพระราชทานครั้งที่7 ประจำปี2507 ในฐานะดารานำหญิงยอดเยี่ยมดอกดิน ที่แสดงด้วย ได้รับรางวัล ตัวประกอบชายยอดเยี่ยม...จุรี โอสิริ และ สมพงษ์ วงศ์รักษ์ไทยที่ให้เสียงแทนตัวเอกในเรื่องนี้ ก็ได้รับรางวัลนักพากย์ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน

ก่อนจะฉายเป็นทางการ ดอกดิน ได้ทูลถวายฉายภาพยนตร์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นการเบิกฤกษ์อันเป็นมงคล...จากนั้น "นกน้อย" ก็เปิดฉายครั้งแรกเมื่อ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2507 ที่โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์
(อยู่แถวเจริญกรุง ปัจจุบันปิดแล้ว)
โดยดอกดินคิดค้นคำโฆษณาทางวิทยุที่ทำให้ติดหูผู้ฟังว่า "นกน้อยคอยท่า อยู่ที่คาเธ่ย์"...ทำให้มีผู้ไปชมหนังเรื่องนี้กันอย่างเนืองแน่น ได้เงินกว่า1ล้านบาท...และถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของเมืองไทย ที่มีหนังทำเงินได้สูงขนาดนี้...คำว่า"ล้านแล้วจ้า" ก็กลายเป็นสโลแกนประจำตัวของดอกดิน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ในปีพ.ศ.2524 ดอกดินนำหนังเรื่องนกน้อยมาสร้างอีกครั้ง นำแสดงโดย สรพงษ์ ชาตรี
และ สาริกา สนธิกาญจน์
(ดาราสาวลูกครึ่ง หน้าใหม่ ที่เล่นเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ก็หายหน้าไปเลย )
หนังสร้างความประทับใจได้ไม่เท่าของเก่า แต่ก็ทำเงินดีพอสมควร

ปัจจุบันฟีล์มหนังเรื่องนี้สาบสูญสิ้นแล้ว...สันนิษฐานว่า เป็นเพราะหนังโด่งดังมากในยุคนั้น
จึงมีการฉายครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อทำเงิน ทำให้ฟีล์มเสียหายย่อยยับ และอีกประการคือ ผู้ที่ดอกดินให้สิทธิ์ในการฉาย หรือผู้ที่เช่าช่วงไปฉายต่อ ต่างอมฟีล์มหนังเรื่องนี้ไว้ไม่ยอมส่งคืน...แม้ต่อมาในภายหลังดอกดินจะประกาศขอซื้อคืนเพื่อเก็บรักษา ก็ไม่มีผู้ติดต่อมาแต่อย่างใด อมแล้วอมลับ ว่างั้น!

ข้อมูลส่วนหนึ่งของบทความนี้มาจากข้อเขียนของ อาจารย์ ส.พลายน้อย จากหนังสือ
ศิลปวัฒนธรรม..ปัจจุบัน อาจารย์ส.หรือ สมบัติ พลายน้อย เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น
ศิลปินแห่งชาติ สาขา วรรณศิลป์...เมื่อวันที่ 5 เดือน กุมภาพันธุ์ ต้นปี 2554 ที่ผ่านมานี่เอง.

รายการบล็อกของฉัน

ค้นหาบล็อกนี้